ความสำคัญของป้ายจราจรบนถนน
บนท้องถนนในประเทศไทยจะเต็มไปด้วยป้ายจราจรหลายรูปแบบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมการจราจร ลดอุบัติเหตุ และให้ข้อมูลแก่ผู้ขับขี่ การเข้าใจความหมายและประเภทของป้ายอย่างถูกต้องจึงสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการละเลยป้ายบางประเภทอาจนำไปสู่การทำผิดกฎหมายและเกิดอันตรายได้
ประเภทของป้ายจราจรในประเทศไทย
โดยทั่วไป ป้ายจราจรในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ป้ายบังคับ ป้ายเตือน และป้ายแนะนำ ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะ สี และความหมายแตกต่างกัน ดังนี้
ป้ายบังคับ คืออะไร?
ป้ายบังคับ คือ ป้ายที่ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่สามารถละเมิดได้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมายทันที ป้ายบังคับส่วนใหญ่จะมีรูปทรงกลมหรือแปดเหลี่ยม สีที่ใช้มักเป็นสีแดง ขาว หรือฟ้า ขึ้นอยู่กับลักษณะของคำสั่ง
ตัวอย่างป้ายบังคับ:
ป้ายหยุด (STOP) รูปแปดเหลี่ยม สีแดง
ป้ายห้ามเลี้ยวขวา หรือห้ามเลี้ยวซ้าย
ป้ายห้ามจอดรถ
ป้ายให้ขับตามทิศทางที่กำหนด
ป้ายเตือน คืออะไร?
ป้ายเตือน คือ ป้ายที่ใช้เตือนผู้ขับขี่ให้ทราบถึงสภาพถนนหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นข้างหน้า เพื่อให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังและลดความเร็ว ป้ายเตือนมักเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน หรือสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่วางในลักษณะแนวทแยง พื้นหลังสีเหลือง มีขอบและสัญลักษณ์สีดำ
ตัวอย่างป้ายเตือน:
ป้ายเตือนทางโค้ง
ป้ายเตือนทางแยกข้างหน้า
ป้ายเตือนเขตก่อสร้าง
ป้ายเตือนพื้นถนนลื่น
ป้ายแนะนำ คืออะไร?
ป้ายแนะนำ คือ ป้ายที่ให้ข้อมูลหรือแนะนำเส้นทางแก่ผู้ขับขี่ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ป้ายแนะนำไม่มีข้อบังคับ ผู้ใช้ถนนสามารถเลือกปฏิบัติได้ตามความเหมาะสม ป้ายแนะนำส่วนใหญ่จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้สีฟ้าหรือสีเขียว
ตัวอย่างป้ายแนะนำ:
ป้ายบอกทางไปสถานที่ต่าง ๆ เช่น ป้ายบอกทางไปสนามบิน โรงพยาบาล
ป้ายแนะนำจุดพักรถ
ป้ายแนะนำทางเลี่ยงเมือง
ป้ายแนะนำทางลัดไปยังจุดหมาย
ลักษณะและสีของป้ายแต่ละประเภท
เพื่อให้ผู้ขับขี่จดจำง่าย ป้ายแต่ละประเภทจะมีลักษณะเฉพาะดังนี้
ประเภทป้าย | รูปทรง | สีหลัก | ความหมาย |
---|---|---|---|
ป้ายบังคับ | กลม, แปดเหลี่ยม | แดง, ฟ้า | บังคับให้ปฏิบัติตาม |
ป้ายเตือน | ขนมเปียกปูน, สี่เหลี่ยมจัตุรัส | เหลือง, ดำ | เตือนอันตราย |
ป้ายแนะนำ | สี่เหลี่ยมผืนผ้า | ฟ้า, เขียว | ให้ข้อมูล/แนะนำ |
เหตุผลที่ควรเข้าใจประเภทของป้ายจราจร
การเข้าใจและปฏิบัติตามป้ายจราจรอย่างถูกต้อง จะช่วยให้
ขับขี่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ
รู้ล่วงหน้าว่าจะพบสภาพถนนแบบใดข้างหน้า
วางแผนเส้นทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร ลดโอกาสโดนปรับ
วิธีการดูแลและตรวจสอบป้ายจราจร
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรตรวจสอบสภาพของป้ายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ป้ายยังคงมองเห็นได้ชัดเจน ไม่ชำรุด หรือมีสิ่งกีดขวาง เช่น
ตรวจดูว่าป้ายสะอาดและไม่มีคราบสกปรก
เช็คความคงทนของเสาและฐานป้าย
หากป้ายจาง ควรเปลี่ยนหรือทาสีใหม่ทันที
การติดตั้งป้ายจราจรให้ถูกต้องตามมาตรฐาน
การติดตั้งป้ายควรเป็นไปตามมาตรฐานกรมทางหลวง และควรพิจารณาจากปัจจัยดังนี้
ความสูงจากพื้นดิน
ระยะห่างจากถนน
มุมมองและการมองเห็นได้ชัดจากระยะไกล
สรุป
แม้ป้ายจราจรจะดูเหมือนสิ่งเล็กน้อยบนท้องถนน แต่แท้จริงแล้วแต่ละป้ายมีความหมายและข้อกำหนดชัดเจน ผู้ใช้รถใช้ถนนควรทำความเข้าใจประเภทและปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนท้องถนนและเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |